เนื่องจากดิฉันเป็นโรคภูมิแพ้ จึงได้เสาะหาวิธีการต่างๆเพื่อจะได้นำมารักษาตัวเองให้อาการไม่เป็นหนักจนเกินไป จากการเข้าไปศึกษาค้นคว้าเพื่อจะได้รู้ทันอาการก็ทำให้เกิดความสนใจอื่นๆตามมาจนได้กลายเป็นเรื่องที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งที่ต้องศึกษาค้นคว้าไปเรื่อยๆๆๆ และดิฉันเองก็อยากจะแบ่งปันความรู้ดีๆๆๆให้กับผู้ที่สนใจอ่านบล็อคนี้
โดยได้เนื้อหาจากการศึกษาค้นคว้าว่าการที่จะเป็นโรคภูมิแพ้เกิดได้จากปัจจัยหลายอย่าง ดังนี้
โดยได้เนื้อหาจากการศึกษาค้นคว้าว่าการที่จะเป็นโรคภูมิแพ้เกิดได้จากปัจจัยหลายอย่าง ดังนี้
เมื่อร่างกายได้รับสารชนิดหนึ่งเข้าสู่ร่างกาย ทางผิวหนัง ทางรับประทาน ทางลมหายใจ หรือจากการฉีดยา หากร่างกายรับสารนั้นได้ก็ไม่เกิดผลเสียต่อร่างกาย แต่หากสารนั้นเป็นสารที่ทำให้เกิดภูมิแพ้ก็จะทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกาย อาจจะรุ่นแรงมากจนทำให้เกิดเสียชีวิตกระทันหันเรียกว่ายังไม่ได้ถอนเข็มก็เกิดอาการแล้ว หรือบางกรณีอาจจะเกิดปฏิกิริยาภูมิมาในภายหลังโดยที่ตัวคนไข้ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าไปรับสารใดมาบ้าง ความรุนแรงและความรวดเร็วของการเกิดภูมแพ้ขึ้นชนิดของภูมิแพ้ซึ่งแบ่งออกเป็น
อาการของโรคภูมิแพ้ขึ้นอยู่กับว่า ภูมิแพ้นั้นเกิดขึ้นที่ระบบใด สำหรับผู้ใหญ่สามารถที่จะให้ประวัติและบอกอาการได้ก็จะช่วยใน
การวินิจฉัยอาการของโรคภูมิแพ้ที่พบได้มีดังนี้
gE - Mediated Reaction
เมื่อร่างกายได้รับสารภูมิแพ้ร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกันชนิด IgE ขึ้นเพื่อกำจัดสิ่งแปลกปลอม
- IgE จะจับกับโปรตีนของสารภูมิแพ้และเกาะกับผิวของเซลล์เม็ดเลือดขาวที่เรียกว่า Mast cell
- หลังจากนั้นจะเกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้ตามมาทำให้เกิดการหลังของสารเคมอีกหลายชนิด histamine heparin Protease Eosinophil chemotactic factor Neutrophil chemotactic factor ,Leucotriene ,prostaglandin
สารต่างๆเหล่านี้จะทำให้เกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้เฉียบพลันที่เรียกว่า Anaphylaxis ซึ่งมีอาการดังต่อไปนี้
- ผื่นที่ผิวหนัง เช่นผื่นแพ้ ลมพิษ คันตามผิวหนัง
- คัดจมูก น้ำมูกไหล จาม
- ไอแน่นหน้าอก หายใจมีเสียงหวีด โรคหอบหืด
- เคืองตาและตาแดง เคืองจมูก
- บวมรอบปาก อาเจียนและถ่ายเหลว
- แสบคอ น้ำมูกไหลลงคอ หูอื้อ
จะรู้ได้อย่างไรว่าเด็กเป็นโรคภูมิแพ้
สำหรับผู้ใหญ่สามารถบอกอาการได้ แต่เด็กบอกอาการไม่ได้ ผู้ปกครองต้องสังเกตอาการและอาการแสดงของเด็กโดยดูจากโครงร่างกาย ผิวหนัง และลักษณะหน้า เด็กที่เป็นภูมิแพ้มักจะมีขนาดตัวเล็กกว่าเด็กทั่วไป ลักษณะใบหน้าของเด็กที่เป็นภูมิแพ้มีดังนี้
- Allergic Shiners เด็กจะมีขอบตาดำคล้ำเนื่องจากเส้นเลือดดำที่ขอบตาขยาย
- Dennie-Morgan Lines เด็กที่เป็นภูมิแพ้จะมีรอยย่นที่ใต้หนังตาล่าง
- Long Face S yndrome เด็กที่เป็นภูมิแพ้ คัดจมูก และมีโรคหอบหืดจะมี เพดานปากสูงขึ้น ฟันบนยื่นออกมา ต้องหายใจทางปากเนื่องจากคัดจมูกอยู่ตลอดเวลา เยื่อบุจมูกจะบวมและซีดเนื่องจากถูกภูมิแพ้กระตุ้นอยู่ตลอดเวลาทำให้หายใจไม่ออก
- Nasal Salute เด็กที่ภูมิแพ้จะมีอาการคันจมูกมักจะเอาฝ่ามือเช็ดจมูกอยู่ตลอดเวลาทำให้เกิดรอยย่นที่ดั่งจมูก
- Facial Tics เด็กที่เป็นภูมิแพ้จะมีอาการคันจมูกทำให้ต้องย่นหน้าและจมูกเหมือนตัวตลก
- Keratosis Pilaris ผิวหนังของเด็กที่เป็นภูมิแพ้จะแห้งและหยาบโดยเฉพาะผิวหนังบริเวณบริเวณแก้ม แขน หน้าอก
- Atopic Ezema ผิวหนังบริเวณข้อพับจะมีรอยเกาเป็นผื่น บางรายมีน้ำเหลือง
- Conjunctivitis เด็กจะเคืองตาและขยี้ตาอยู่ตลอดเวลา เยื่อบุตาจะบวม
- Glue ear เด็กที่คัดจมูกอยู่ตลอดเวลาทำให้เกิดหูชั้นกลางอักเสบ มีหนองไหลออกจากหู
- Posterior nasal drip น้ำมูกจะไหลลงคอตลอดเวลาทำให้เด็กระคายคอ บางคนไอเรื้อรัง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น